การเล่นบาคาร่า วิธีการเทคนิคการเล่นบาคาร่าและสูตรบาคาร่า ให้ได้เงินจริง รวบรวมไว้ที่นี่

บทความ

การเล่นบาคาร่า คลาสสิก

วิธี การเล่นบาคาร่า คลาสสิกนั้น เล่นง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ได้ผลตอบแทนสมน้ำสมเนื้อ มีรูปแบบที่ความคลาสสิก มีรูปแบบฝั่งการเดิมพันแค่ Player ,Tie ,Banker อย่างชัดเจน สามารถวางเดิมพันได้ ตั้งแต่  20 – 50 – 100 – 1,000 – 10,000 หรือมากกว่านี้ก็สามารถเลือกได้ ด้วยระบบฟังชั่นรองรับทุกภาษา และทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน โดยมีอัตรการจ่ายดังนี้

• วางเดิมพันฝั่ง Banker อัตราเงินเดิมพันที่จะได้กลับมาคือ 0.95 เท่า ของเงินเดิมพัน เพราะจะถูกคิดค่าคอมมิชชั่นและถูกหักเงินเดิมพันที่ควรจะได้ไป 0.05 เท่า ของเงินเดิมพัน
• วางเดิมพันฝั่ง Player อัตราเงินเดิมพันที่จะได้กลับมาคือ 1 เท่าของเงินเดิมพันที่ลงไปเชียวนะ
• Tie Game แทงเสมอ หรือทั้งสองฝั่ง Banker และ Player มีแต้มเสมอเท่ากัน มีอัตราการจ่ายเงินเดิมพัน ที่ 8 เท่า
• Banker Pair คือ แทง Banker ออกไพ่คู่ ทายถูก มีอัตราการจ่ายเงินเดิมพัน ที่ 11 เท่า
• Player Pair คือ แทง Player ออกไพ่คู่ ทายถูก มีอัตราการจ่ายเงินเดิมพัน 11 เท่า จะเห็นว่า Tie Game , Banker Pair , Player Pair มีอัตราการจ่ายเงินรางวัลที่สูงมากเลย

การเล่นบาคาร่า ซุปเปอร์ซิก

การเล่นบาคาร่า ก็คือ การเล่นบาคาร่า โดยการวางเดิมพัน ทายผลว่า ฝั่ง Banker จะได้แต้มของไพ่จั่วทั้งหมด รวมกันเป็น 6 แต้มได้หรือไม่ นั่นเอง โดยการทายผล ฝั่ง ซุปเปอร์ซิก นี้ จะเน้นไปที่การทายผล วางเดิมพันในฝั่งเจ้ามือเป็นหลัก เป็น การเล่นบาคาร่า ที่จะทำกำไรให้นักเดิมพันได้ถึง 20 เท่าเลยทีเดียว แค่ลุ้นให้การวางเดิมพัน ในฝั่ง Banker ของเราชนะ ให้มีแต้มที่ผลรวมของไพ่ ไม่ว่ากี่ใบก็ตาม ให้มี 6 แต้ม เพียงเท่านั้น ก็จะทำให้นักเดิมพันชนะ ซุปเปอร์ซิก ได้แล้ว เรียกได้ว่า บาคาร่า ซุปเปอร์ซิก นี้ จะสร้างความตื่นต้น เร้าใจ ใน การเล่นบาคาร่า ได้มากกว่า ทำเงินได้มหาศาล มากกว่า เป็นอีกช่องทางการเดิมพัน ที่ควรค่าแก่การลงทุนมากเลยทีเดียว การเล่น บาคาร่า ซุปเปอร์ซิก (Super six) จะได้รับไพ่อย่างน้อย 2 ใบ แต่ไม่เกิน 3 ใบ หากไพ่สองใบแรก มีแต้มใกล้เคียงกับ 9 จะไม่มีการจั่วไพ่เพิ่ม แต่หากไพ่ 2 ใบแรก มีแต้มน้อยกว่า 6 แต้ม ไพ่ใบที่ 3 จะถูกจั่ว ขึ้นมาทันที โดยแบ่งการจั่วไพ่ของฝั่ง Player และฝั่ง Banker ออกเป็นดังนี้

• Player เมื่อเปิดไพ่ 2 ใบแรก มีแต้มรวมกัน 1-5 จะต้องจั่วไพ่เพิ่ม แต่หากมีแต้มรวมกันได้ 6-7 แต้ม ไม่จั่วไพ่เพิ่มแล้ว และมีแต้มรวมกันได้ 8-9 ก็คือ ได้แต้มที่สูง ที่สุดแล้ว ถือว่าอยู่แล้ว
• Banker เมื่อเปิดไพ่ 2 ใบแรก มีแต้มรวมกันได้ 1-5 จะต้องจั่วไพ่เพิ่ม แต่หากมีแต้มรวมกันได้ 6-7 แต้ม ไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่มแล้ว และหากมีแต้มรวมกันได้ 8-9 ก็อยู่แล้ว โดยบางครั้งการจั่ว จะขึ้นอยู่กับแต้มของ ฝั่งPlayer หากมีแต้มมากกว่า ทางเจ้ามือจะทำการจั่วไพ่เพิ่มทันที โดยมีอัตรการจ่ายดังนี้
• Player แทงฝ่ายผู้เล่น ชนะ อัตราจ่าย 1:1
• Banker แทงฝ่ายเจ้ามือ ชนะ อัตราจ่าย 1:1
• Tie แทงว่าแต้มของทั้งสองฝั่งจะออกมาเสมอกัน อัตราจ่าย 1:8
• ซุปเปอร์ซิก (Super six) แทงแต้มของฝั่งเจ้ามือออกมาเป็น 6 แต้ม อัตราจ่าย 1:12

การเล่นบาคาร่า ชนวัว

บาคาร่าชนวัว มีรูปแบบ และลักษณะการเล่น อัตราการจ่าย ที่ออกจะแปลก และแตกต่างจาก การเล่นบาคาร่า รูปแบบอื่น ๆ โดยกฎกติกาก็มีอยู่ว่า นักเดิมพันสามารถวางเดิมพันได้ทั้งหมด 3 ฝั่ง Player 1 ,Player 2 ,Player 3 ทั้ง 3 ฝั่ง จะต้องทำการชนไพ่ กับ Banker วางเดิมพันได้ 2 รูปแบบ คือ แบบหนึ่งเท่า และแบบเท่าตัว นั้นก็คือความแตกต่างในการทำเงิน เพราะนักเดิมพันสามารถ เลือกอัตราการจ่ายเองได้ อยากเล่นแบบ Play Save ก็ได้ หรืออยากจะเล่นแบบหวังกำไร แบบลองเสี่ยงไปเลยก็ได้ เลือกเองได้เลย โดยหากเลือกวางเดิมที่ฝั่งใดแล้ว ก็เลือกอัตราการจ่ายเมื่อ แพ้ ชนะ ได้เลย อัตราจ่ายแบบ หนึ่งเท่านั้น ก็คือการจ่ายแบบ 1:1 เหมือนกับบาคาร่าทั่วไป ไม่มีอะไรมาก วางเดิมพันได้เลย แต่ลุ้นกว่าแน่นอน หากเป็นบาคาร่า ชนวัว ส่วนอัตราการจ่ายในส่วนของ อัตราการจ่ายแบบเท่าตัวก็คือ นักเดิมพันต้องเลือกฝั่งเดิมพัน และมา ลุ้น ชนวัว กันว่า ฝั่งที่เลือกวางเดิมพัน กับ ฝั่ง Banker ใครจะได้แต้มไพ่มากกว่ากัน โดยบาคาร่า ชนวัว นั้น จะมีการแจก ไพ่ ถึง 5 ใบ ด้วยการเรียกจากการแจกที่ Banker ตามด้วย Player 1 > Player 2 > Player 3 ตามลำดับ แต่ต้องแจก 3 ใบแรกก่อน แล้วจั่ว อีก 2 ใบ ชนะด้วยแต้มผลรวมทั้งหมด

อัตราการจ่าย บาคาร่า ชนวัว

• อัตราจ่ายหนึ่งเท่า เมื่อวางเดิมพัน ชนะ อยู่ที่ 1:0.95 คือ เมื่อวางเดิมพัน 100 บาท จะได้รับเงินเดิมพัน 95 บาท 
• อัตราจ่ายหนึ่งเท่า เมื่อวางเดิมพัน แพ้ อยู่ที่ 1:1 คือ เมื่อวางเดิมพัน 100 จะต้องเสียเงินเดิมพัน 100 บาท 
• อัตราจ่ายเท่าตัว เมื่อวางเดิมพันแพ้ หรือชนะ จะต้องได้รับ และเสียเงินเดิมพัน เท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับแต้มแพ้ ชนะ เท่านั้น ตัวอย่างเช่น ถ้าฝั่ง Banker ได้ไพ่ที่แต้มรวม 5 แต้ม และ ไพ่ฝั่งที่วางเดิมพัน ได้ไพ่ที่แต้มรวม 8 แต้ม 5 – 8 = 3 เท่ากับว่า จะได้รับเงินเดิมพัน 3 เท่า คือ ถ้าวางเดิมพัน 100 บาท ก็จะมีอัตราการจ่ายที่ 300 บาท กลับกัน ถ้าวางเดิมพันแล้วแพ้ ที่เท่าไหร่ ก็ต้องเสียเงินเดิมพันแบบเท่าตัวเหมือนกัน การรวมแต้มไพ่ ก็เหมือนกับ บาคาร่าทั่ว ๆ ไป เพียงแต่ต้องรวมทีละกอง รวมกอง 3 ใบแรกก่อน ก่อนจะเอาไปรวมกับไพ่อีก 2 ใบ 

ทั้งนี้  การเล่นบาคาร่า นั้น มีการพัฒนาการเล่นในรูปแบบใหม่ ๆ ออกมา เพื่อเสิร์ฟความบันเทิงในการเล่นบาคาร่า ให้กับนักเดิมพันแบบไม่เคยหยุดยั้ง แต่ทุกเกม การเล่นบาคาร่านั้น ล้วนแล้วแต่ก็ทำเงินและโกยเงินได้ไม่ยาก นี่คือหนึ่งในหลาย ๆ เหตุผล ที่ทำให้ การเล่นบาคาร่า นั้น ได้ขึ้นนำเป็นอันดับหนึ่งสุดยอดเกมทำเงิน บนคาสิโนออนไลน์